วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559


อาหารของชาวภูไท
 
          ชาวภูไททุกเพศทุกวัย  มักจะนำอาหารจากธรรมชาติมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารในเเต่ละวัน  เช่น  นำปลาจากเเหล่งธรรมชาติมาประกอบอาหาร ปลาที่พบมากในเเถบนี้คือ  ปลาช่อน  ปลานิล  ปลาหมอ ปลาดุก เป็นต้น  นอกจากนั้นยังมีอาหารประเภทต่างๆอีกมากมาย เช่น ส้มตำ ทำมาจากมะละกอที่ปลูกไว้ในบ้านหรือสวน ส้มตำถือเป็นอาหารขึ้นชื่อของภาคอีสานเเละชาวภูไทก็ว่าได้ ของหวานข้าวดำ ทำมาจากข้าวที่ปลูกไว้ในนา ภาษาอีสานเรียกว่า "ข้าวก่ำ"  ยังมีอาหารอีกมากมายที่อยากให้ผู้คนต่างถิ่นได้มาลิ้มรสกันค่ะ



อาหารของขาวภูไท


ข้าวต้มมัด


ของหวานข้าวดำ


สังขยาฟักทอง



วิธีจับปลามาทำอาหาร


ส้มตำ






สถานณ์ที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวภูไท

           ชาวภูไทส่วนมากนับถือศาสนาพุทธ ซึ่งสถานณ์ที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวภูไท คือ "วัด"  พอถึงทุกๆวันพระชาวภูไทจะพากันลงไปทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า  พอถึงตอนเย็นผู้เฒ่าผู้เเก่จะลงไปสวดมนต์ทำสมาธิเป็นประจำ ในวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ เช่น วันเข้าพรรษา บุญข้าวประดับดินวันมาฆบูชา  วันวิสาขบูชา  วันออกพรรษา ชาวบ้านจะพากันลงทำบุญ  ทำความสะอาดวัดเเละบริเวณต่างๆ ในหมู่บ้าน  วัดจึงถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวภูไทก็ว่าได้

โบราณสถานกุฏิวัดโพธิ์ชัย


ทางเข้าวัดประตู
                                                                           


อุโบสถประจำวัด


อาชีพของคนภูไท
                คนภูไทส่วนมากจะมีอาชีพทำนา ซึ่งจะมีการทำนาในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน ในเดือนมิถุนายนจะเริ่มไถนาเเละหว่่านกล้า พอถึงเดือนกรกฎาคมที่เป็นช่วงฤดูฝนชาวนาก็เริ่มดำนาเเละจากนั้นก็จะดูเเลข้าวโดยการใส๋ปุ่ย ดายหญ้า จนไปถึงกลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ข้าวจากที่มีสีเขียวก็จะเริ่มมีสีเหลืองทองพร้อมที่จะให้ชาวนาเก็บเกี่ยวผลผลิต จากทำนาของชาวภูไทจะเป็นการทำนาโดยการเลี้ยงตัวเอง ถ้าเหลือจากการบริโภคก็จะจำหน่ายหรือเเจกจ่ายให้กับเพื่อนบ้าน




จากข้าวที่เป็นสีเขียว



ก็กลายมาเป็นข้าวสีเหลืองทอง


ชาวนากำลังเกี่ยวข้าวกันอย่างขยันขันเเข็ง


การสีข้าวของชาวภูไท